วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

นาฬิกา Swiss-Made ผลิตจากที่ไหน


ได้ยินเรื่องนาฬิกาที่เขียนบนเรือนว่า Swiss-Made กันมานานแล้ว จริงๆ แล้วมันหมายความว่าอย่างไร และ
ไว้ใจได้แค่ไหนว่าเป็นนาฬิกาของสวิสเซอร์แลนด์ แดนแห่งนาฬิกาชั้นยอดของโลก

ประเด็นนาฬิกาสวิสเป็น "สวิส" มากแค่ไหนคือหัวใจของข้อถกเถียงในปัจจุบัน เรื่องก็มีอยู่ว่าโลกาภิวัตน์ และระบบเศรษฐกิจเสรีทำให้ชิ้นส่วนของนาฬิกา ซึ่งผลิตได้ถูกกว่าในประเทศอื่นๆ ถูกนำมาใช้ในการผลิตนาฬิกาสวิสมากขึ้นทุกที บริษัทผลิตนาฬิกาใหญ่ๆ ของสวิสเซอร์แลนด์ เช่น Swatch Group/Cie. Financi?reRichemont และ Rolex กังวลในเรื่องนี้เพราะเกรงว่าจะทำให้นาฬิกาสวิส ลดคุณค่าลงจึงเสนอให้ตั้งเงื่อนไขที่เข้มข้นกว่าเดิม ในการที่จะเรียกว่านาฬิกาใดเป็น Swiss-Made

บริษัทผลิตนาฬิกาเล็กๆ ในสวิสเซอร์แลนด์มองว่าการทำให้เงื่อนไขเข้มขึ้นนี้แท้จริงแล้ว ก็คือการบ่อนทำลาย ให้บริษัทของตนล้มละลาย บริษัทเหล่านี้บอกว่าการเพิ่มคุณภาพของนาฬิกาสวิสคือคำตอบสุดท้าย ไม่ใช่สร้างเงื่อนไขที่เข้มขึ้น

ภายใต้กฎหมายสวิสปัจจุบันสิ่งที่เรียกว่า watch movement (ตัวจักรกลของนาฬิกาซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญ เช่น กลไกกำหนดการทำงาน) ที่ผลิตในสวิสเซอร์แลนด์รวมกันต้องมีค่าไม่น้อยกว่าร้อยละ50 ของมูลค่าตัวเรือนจึงจะเข้าข่ายเรียกว่า Swiss-Made ได้ แต่เนื่องจาก watch movement นี้มีมูลค่า
เพียงร้อยละ 15 ถึง 25 ของมูลค่าตัวเรือนเท่านั้นดังนั้น จึงหมายความว่าเพียงประกอบชิ้นส่วนที่ผลิตใน
สวิสเซอร์แลนด์ที่มีมูลค่าเพียงร้อยละ 10 ของ ตัวเรือนก็เข้าข่ายเรียกได้แล้วว่า เป็น Swiss-Made

พูดง่ายๆ ก็คือภายใต้กฎหมายสวิสเซอร์แลนด์ปัจจุบันนาฬิกาที่เรียกว่า Swiss-Made นั้นอาจมาจากชิ้นส่วนผลิตในสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งมีมูลค่าเพียงร้อยละ 10 ของมูลค่าตัวเรือนเท่านั้น อีกร้อยละ 90 ของมูลค่า มาจากชิ้นส่วนนอกประเทศก็ได้ (อาจมาจากจีนทั้งหมดก็เป็นได้)

ผู้ผลิตรายใหญ่ที่กังวลบอกว่าปัจจุบันคล้ายกับการติดตั้งเบาะนั่งราคาแพง ที่ผลิตในสวิสเซอร์แลนด์เข้าไปในรถยี่ห้อหนึ่ง ที่ชิ้นส่วนผลิตนอกสวิสเซอร์แลนด์ทั้งหมดและก็สามารถขายมันไปโดยบอกว่าเป็นรถ Swiss-Made

บริษัทนาฬิกาเล็กๆ จำนวนมากที่เข้าข่ายเรียกกว่าSwiss-Made นั้นเล่นกลโดยใช้ชิ้นส่วนนอกประเทศเกือบ
ทั้งหมด เหลือแต่เพียงชิ้นส่วนที่เป็นแผ่นหมุนเล็กๆ อยู่ข้างในเครื่องที่ขับเคลื่อนเมื่อผู้ใช้เคลื่อนไหวเท่านั้นที่ผลิตในสวิสเซอร์แลนด์ โดยมีมูลค่าประมาณร้อยละ 10 ของตัวเรือน

กลุ่ม Swatch (Omega คือยี่ห้อดัง) ร่วมกับ Richemont และ Rolex (ทั้งสามคือยักษ์ใหญ่ของ
Federation of the Swiss Watch Industry องค์กรตัวแทนผู้ผลิตที่ทรงพลังของประเทศ) พยายามผลักดัน
กฎเกณฑ์ที่เข้มข้นขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ โดยต้องการให้ระบุว่า ชิ้นส่วนผลิตในสวิสเซอร์แลนด์ต้องมีค่าอย่างน้อยร้อยละ 60 ของมูลค่าตัวเรือน และต้องการเกณฑ์อย่างน้อยร้อยละ 80 สำหรับนาฬิกาประเภทกลไกพิเศษหรือผลิตขึ้นมาเพื่อลูกค้าเฉพาะราย

ผู้ผลิตรายเล็กเช่นนาฬิกา Swiss Railways Watchต่อต้านเพราะจะทำให้นาฬิกาของเขาแพงขึ้นอีกเท่าตัว
และโต้เถียงว่ากฎใหม่จะทำลายคุณภาพของนาฬิกา Swiss-Made เพราะผู้ผลิตจะพยายามหาชิ้นส่วนราคา
ถูกจากต่างประเทศมาใช้ เพื่อจะได้สอดคล้องกับมูลค่าไม่เกินกว่าร้อยละ 40 ที่เหลือของตัวเรือน ที่ควรแก้ไขคือพัฒนาคุณภาพนาฬิกาสวิสทุกเรือนให้กันน้ำได้และบอกเวลาใช้อย่างแม่นยำ

การโต้เถียงก็เป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทตนเอง อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่ากฎหมายใหม่นี้ จะช่วยรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของคำว่า Swiss-Made และรักษาความเป็นเลิศของนาฬิกาสวิสไว้

กฎใหม่คาดว่าจะทำให้มีการนำเข้าชิ้นส่วนจากเอเชียน้อยลง จะทำให้กลุ่ม Swatch ซึ่งผลิตชิ้นส่วนให้แก่
นาฬิกายี่ห้อต่างๆ ในสวิสเซอร์แลนด์อยู่แล้วเข้มแข็งขึ้นคนสวิสมีงานทำมากขึ้น นาฬิกาสวิสถูกๆ ที่ "หลอก"
ผู้คน ด้วยการนำเข้าชิ้นส่วนเกือบทั้งหมดจากต่างประเทศและนำมาขายในนาม Swiss-Made ก็จะหมดอนาคตไป

ใครที่บ้าคลั่งนาฬิกาสวิสฟังแล้วคงมีสติมากขึ้น Swiss-Made มีความหมายไม่มากนักภายใต้กฎหมายสวิส
ปัจจุบัน และไม่ได้หมายความอย่างเดียวกับ Made in Switzerland

ในโลกปัจจุบันยากที่จะหาสินค้าอุตสาหกรรมใดที่ทุกชิ้นส่วนผลิตขึ้นภายในประเทศใดประเทศหนึ่ง ดังนั้น คำว่า "Made in" ประเทศใดจึงมีความหมายที่เบลอ และนำไปสู่ความเข้าใจที่ผิดๆ

ผ้าไหมไทยที่ดูแสนจะ Made in Thailand นั้นแท้จริงแล้วเส้นไหมยืนของการทอต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น
เช่นเดียวกับสีย้อม ผ้าทอฝ้ายฝีมือชั้นยอดจากหมู่บ้านแสนไกลในแดนสยามนั้นมีโอกาสสูงมากที่ฝ้ายใช้ทอนั้นนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากบ้านเราผลิตฝ้ายได้น้อยกว่าที่ใช้ในแต่ละปีเป็นอันมาก

ขอบขอบคุณ
อาหารสมอง : วีรกร ตรีเศศ
ปีที่ 28 ฉบับที่ 1465 วันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2551 มติชนสุดสัปดาห์ หน้า 44

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น